แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 49
1
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น

•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”

สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/


2
“สร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน” สไตล์ครูแมกซ์

จุดเริ่มต้นเพียงแค่ไม่มีใจรักการเป็นลูกน้อง และไม่ชอบการทำงานในองค์กร บวกกับมีความตั้งใจที่ว่า อยากฝึกทักษะการทำอาหารไว้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ทานตอนท่านแก่
พร้อมกับคำพูดของคุณแม่ที่ชอบบอกว่า “การขายของมันได้จับเงินทุกวัน” นั่นคือจุดตัดสินใจ

ครูแมกซ์
จุดเริ่มต้นง่ายๆก็เริ่มจากการเรียนรู้จากคุณแม่ของครูแมกซ์เอง ท่านเป็นคนทำอาหารไทยอร่อย และเคยเปิดร้านอาหารมาก่อนตอนครูแมกซ์เด็กๆ
โดยใช้การถาม สังเกตอย่างละเอียด และฝึกชิมรสชาติของอาหารที่แท้จริง (เพราะคุณแม่ไม่เคยชั่งตวงวัดแม่บอกชิมให้เป็นไม่ต้องมาถามสูตร555)
ร่วมกับการเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น ยูทูป ดูทุกวันตลอดระยะเวลา 8-10ปี พร้อมกับการซื้อวัตถุดิบมาลงมือทำจริง ชิมจริง ทำให้คคุณแม่ทานจริง

ครูแมกซ์
จนถึงจุดที่มั่นใจแล้วว่า…จะทำอาหารเพื่อสร้างรายได้เริ่มง่ายๆจากครัวที่บ้าน
จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลา15ปี ที่ครูแมกซ์มีรายได้จากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการยืนขายสลัดริมถนนหน้าตึกชาญอิสะ2 เปิดรับออเดอร์ลุกค้าในหมู่บ้าน การพรีออเดอร์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งการออกบูทตามห้างดังต่างๆ

ทั้งหมดนี้ผ่านการทำจริง ได้ผลลัพธ์จริงมาทั้งหมดแล้วด้วยตัวครูแมกซ์เองคนเดียว (แบบไม่เลือกการมีลูกน้อง)

จึงมั่นใจมากว่าจากประสบการณ์ทั้งหมดที่ครูแมกซ์สั่งสมมาตลอดจนถึงวันนี้

ไข่เจียว
ครูแมกซ์ได้พิสูจน์แล้วว่า…การสร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน “มันทำได้จริง”
ครูแมกซ์ก็พร้อมที่จะถ่ายทอดทุกสูตรลัด แบไต๋ทุกเคล็ดลับให้คุณแบบหมดเปลือก!!  !!ความตั้งใจนั้นมันก็ได้เกิด”ผลลัพธ์”กับลูกศิษย์ครูแมกซ์เรียบร้อยแล้ว

📌น้องมิ้นท์ นักเรียนคอร์สไพรเวทจับมือทำรอบสด
ลาออกจากงานประจำเพื่อมาเปิดร้านขายอาหาร หลังจากเรียนกับครูแมกซ์ไปเพียงแค่3วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับพรีออเดอร์จากอาพาร์ทเมนต์ (โดยมีครูแมกซ์เป็นที่ปรึกษาตลอด1เดือนเต็ม) เริ่มจากเมนูง่ายๆที่ครูแมกซ์เลือกให้เป็นเมนูประจำร้าน คือ “เมนูไข่ฟูหมูฉ่ำนัว”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 68
สรุปได้ยอดขาย 60,000 บาท (ทำด้วยตัวคนเดียว)

📌น้องเติ๊ด นักเรียนคอร์สออนไลน์
เป็นพนักงานประจำหัวหน้าแผนกHR อยากหาอาชีพเสริมเพื่อวางแผนลาออกจากงานประจำ หลังจากเรียนคอร์สครูแมกซ์ภายใน 7 วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับออเดอร์ที่คอนโด เริ่มจากเมนูง่ายๆที่เรียนจากคอร์สสูตรกะเพรา กับ คอร์ส10เมนูไข่ทำง่ายรายได้ปัง เมนูประจำร้าน คือ “เมนูข้าวไข่เจียว ไข่ข้น”
‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายได้มากกว่าเงินเดือนประจำเป็นที่เรียนร้อยแล้ว พร้อมกับยื่นใบลาออก (แต่นายยังไม่อนุมัติ)


สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://web.facebook.com/profile.php?id=61569480015186
เว็บไซด์ : https://krumax.net/krumaxcourse/
เบอร์โทร : 081-413-4479


3
มอเตอร์โชว์ 2025: Mercedes-Benz EQS SUV ตะลุยเส้นทาง กรุงเทพฯ-เบตง เช็คอินจุดชาร์จทั่วภาคใต้ เติมความมั่นใจทุกการขับขี่!

เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย พาตะลุยเส้นทางกรุงเทพฯ-เบตง ทดสอบสมรรถนะการขับขี่ไปกับรถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่น EQS 450 4MATIC SUV AMG Dynamic ผนึกกำลัง RÊVERSHARGER ผู้ให้บริการชาร์จ EV แบบครบวงจรภายใต้บริษัท ชาร์จ แมเนจเม้นท์ จำกัด เพื่ออำนวยความสะดวกให้เจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าเมอร์เซเดส-เบนซ์ ทุกรุ่น สามารถเข้าถึงสถานีชาร์จสาธารณะ (Public Charge) ที่ครอบคลุมทุกเส้นทางทั่วประเทศ มุ่งมั่นยกระดับประสบการณ์การขับขี่ในยุคพลังงานสะอาด เดินหน้าขับเคลื่อนประเทศสู่สังคมคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน ผ่านเครือข่ายสถานีชาร์จที่ทันสมัยและคุณภาพสูง พร้อมยกระดับประสบการณ์การชาร์จแบบครบวงจร และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ของผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น

ไฮไลท์ทริป กรุงเทพฯ-เบตง กับรถยนต์รุ่น EQS 450 4MATIC SUV AMG Dynamic
ตลอดการเดินทางจากกรุงเทพฯ สู่เบตง จ.ยะลา รวมระยะทางกว่า 1,279 กิโลเมตร ไม่เพียงแค่การไปถึงจุดหมายปลายทางเท่านั้น แต่เป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ในทุกกิโลเมตร โดย EQS 450 4MATIC SUV AMG Dynamic ได้แสดงให้เห็นสมรรถนะอันยอดเยี่ยม ด้วยความสามารถในการขับขี่ได้ไกลสูงสุด 658 กิโลเมตร (WLTP) ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ทำให้การเดินทางในครั้งนี้เต็มไปด้วยประสบการณ์ในทุกมิติ ตั้งแต่การขับขี่บนถนนหลายสายที่แตกต่างกัน การเบรกและการเร่งความเร็วเพื่อสัมผัสอิสระบนท้องถนน ไปจนถึงการเพลิดเพลินกับธรรมชาติที่สวยงามสองข้างทางของภาคใต้

ระหว่างการเดินทางยังได้พิสูจน์ถึงความสะดวกสบายจากสถานีชาร์จที่กระจายอยู่ตามเส้นทางตั้งแต่กรุงเทพฯ ลงไปถึงภาคใต้ เพียงแค่แวะพัก รถยนต์ก็สามารถชาร์จแบตเตอรี่จากหัวชาร์จความเร็วสูงได้เต็มความจุในเวลาอันสั้น พร้อมที่จะเดินทางต่อไปยังทุกจุดหมายอย่างราบรื่น
จุดที่ 1 One Bangkok (กรุงเทพมหานคร) – ปั๊มน้ำมันบางจาก หจก. ธนัญธร ฐิติพร (หัวหิน) ปริมาณการชาร์จ 41.137 kWh ระยะทาง 229 กิโลเมตร
จุดที่ 2 ปั๊มน้ำมันบางจาก หจก. ธนัญธร ฐิติพร (หัวหิน) – ปั๊มน้ำมันเชลล์ ชลลดาการปิโตรเลียม (ชุมพร) ปริมาณการชาร์จ 38.274 kWh ระยะทาง 264 กิโลเมตร
จุดที่ 3 ปั๊มน้ำมันเชลล์ ชลลดาการปิโตรเลียม (ชุมพร) – โรงแรมดิโอวาเลย์ (สุราษฎร์ธานี) ปริมาณการชาร์จ 78.4 kWh ระยะทาง 181 กิโลเมตร
จุดที่ 4 โรงแรมดิโอวาเลย์ (สุราษฎร์ธานี) – ปั๊มน้ำมันเชลล์ บางกล่ำ (หาดใหญ่) ปริมาณการชาร์จ 93.326 kWh ระยะทาง 323 กิโลเมตร
จุดที่ 5 ปั๊มน้ำมันเชลล์ บางกล่ำ (หาดใหญ่) – ชายแดน อ.เบตง ปริมาณการชาร์จ 81.1 kWh ระยะทาง 282 กิโลเมตร

ขับเคลื่อนทุกเส้นทางด้วยเมอร์เซเดส-เบนซ์ พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษที่เหนือกว่าใคร

เมอร์เซเดส-เบนซ์ ยังมาพร้อมข้อเสนอที่มอบให้กับลูกค้าที่ซื้อ EQS 450 4MATIC SUV AMG Dynamic ในแพ็กเกจ “Worry Free” และเริ่มต้นสัญญามายสตาร์กับ บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม 2567 พร้อมตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้งาน เพิ่มความอุ่นใจ และเติมเต็มทุกความสะดวกสบายไปอีกขั้น ดังนี้
เงินชำระส่วนแรก 0% เริ่มต้น 72,000 บาท/เดือน เมื่อทำสัญญามายสตาร์*
ฟรี! ค่าบริการชาร์จพลังงานไฟฟ้าแบบ DC ไม่จำกัดจำนวนครั้ง (Unlimited DC Charging) เป็นระยะเวลา 1 ปี ผ่านสถานีอัดประจุไฟฟ้าที่กำหนดไว้ของผู้ให้บริการ SHARGE**
ฟรี! Wallbox พร้อมติดตั้ง**

4
ประกาศขายฟรี / Doctor At Home: เยื่อแก้วหูทะลุ (Ruptured eardrum)
« เมื่อ: วันที่ 29 มิถุนายน 2025, 21:15:27 น. »
Doctor At Home: เยื่อแก้วหูทะลุ (Ruptured eardrum)

เยื่อแก้วหูทะลุ หมายถึง เยื่อแก้วหูเกิดรูทะลุ

สาเหตุ

ส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อ คือ หูชั้นกลางอักเสบ ซึ่งพบบ่อยในเด็ก

บางรายอาจเกิดจากการบาดเจ็บ เช่น จากการแคะหู อุบัติเหตุจากการเล่นกีฬา ถูกกระแทกหรือตบตี หรือจากการเล่นพลุ ประทัด หรือเสียงจากระเบิด เป็นต้น

นอกจากนี้ อาจเกิดจากหูบาดเจ็บจากความกดดันอากาศ

อาการ

ผู้ป่วยจะมีอาการหูอื้อ หูตึง มีเสียงในหู ซึ่งเกิดขึ้นทันทีภายหลังได้รับบาดเจ็บ บางรายอาจมีอาการปวดในรูหู หรือมีเลือดไหลออกจากหู

ส่วนในรายที่เกิดจากหูชั้นกลางอักเสบ อาจมีไข้ ปวดหู หูอื้อ นำมาก่อน หลังจากนั้นจะมีหนองไหลออกจากหู บางรายอาจมีประวัติเป็นโรคเป็นหูน้ำหนวกเรื้อรัง มีอาการหูอื้อ หูตึง และมีหนองไหลออกจากหูแบบเรื้อรัง

ภาวะแทรกซ้อน

อาจทำให้เกิดการติดเชื้อ เป็นโรคหูชั้นกลางอักเสบ

ถ้าปล่อยทิ้งไว้ อาจกลายเป็นโรคหูชั้นกลางอักเสบเรื้อรัง ซึ่งอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ตามมา รวมทั้งทำให้หูหนวกสนิทได้

การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจร่างกาย เป็นหลัก

สิ่งตรวจพบที่สำคัญ คือ การใช้เครื่องส่องหูตรวจดู พบเยื่อแก้วหูมีรูทะลุ

ในรายที่เกิดจากหูชั้นกลางอักเสบ แพทย์อาจทำการตรวจเพิ่มเติม เช่น การเพาะเชื้อจากหนองที่ออกจากรูทะลุของเยื่อแก้วหู การค้นหาภาวะแทรกซ้อนในรายที่เป็นเรื้อรัง (เช่น การทดสอบการได้ยิน เอกซเรย์กระดูกมาสตอยด์ การถ่ายภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า/เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ เป็นต้น)

 การรักษาโดยแพทย์

1. ถ้าเกิดจากหูชั้นกลางอักเสบ แพทย์จะให้การดูแลแบบโรคหูชั้นกลางอักเสบ

2. ในรายที่เยื่อแก้วหูทะลุจากสาเหตุอื่น ถ้าเยื่อแก้วหูทะลุเป็นรูเล็ก แพทย์จะให้ยาปฏิชีวนะกินป้องกันการติดเชื้อ และแนะนำให้ผู้ป่วยระวังไม่ให้น้ำเข้าหู

แต่ถ้าเยื่อแก้วหูทะลุเป็นรูกว้าง หรือปิดเองไม่ได้ แพทย์จะทำการปลูกเยื่อแก้วหู (eardrum patch) โดยใช้สารเคมีจี้ที่ขอบรอยฉีกขาด กระตุ้นให้เซลล์เยื่อแก้วหูงอก แล้วปะบริเวณที่รอยฉีกขาดด้วยกระดาษแบบพิเศษ โดยมักต้องทำซ้ำหลายครั้งจนกว่ารูจะปิดสนิท

หากวิธีข้างต้นไม่ได้ผล หรือแพทย์พิจารณาว่ามีความจำเป็น ก็จะทำการผ่าตัดปะเยื่อแก้วหู (tympanoplasty) โดยนำเนื้อเยื่อส่วนอื่นในร่างกาย (เช่น หลอดเลือดดำ เยื่อพังผืดของกล้ามเนื้อ) มาปะรอบบริเวณรูทะลุบนเยื่อแก้วหู

ผลการรักษา ถ้าเยื่อแก้วหูทะลุเป็นรูขนาดเล็ก มักจะปิดได้เองภายใน 2-3 สัปดาห์ หรือภายใน 3 เดือน สำหรับเยื่อแก้วหูทะลุเป็นรูกว้าง หากได้รับการผ่าตัดแก้ไขได้ทันการณ์ ก็จะหายได้เป็นปกติ โดยไม่มีภาวะแทรกซ้อนตามมาแต่อย่างใด

การดูแลตนเอง

หากมีอาการหูอื้อที่เกิดขึ้นฉับพลันทันที หลังได้รับบาดเจ็บหรือการกระทบกระเทือนบริเวณหู หรือมีอาการหูอื้อร่วมกับมีไข้ ปวดหู หูน้ำหนวกไหล ควรไปพบแพทย์โดยเร็ว

หากแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นเยื่อแก้วหูทะลุ ควรดูแลตนเองดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด
    งดการลงเล่นน้ำ ดำน้ำ หรือว่ายน้ำในสระหรือแม่น้ำลำคลอง
    เวลาอาบน้ำ ใช้สำลีหรือวัสดุอุดรูหู ป้องกันไม่ให้น้ำเข้าหู
    ไม่สั่งน้ำมูกแรง ๆ เพราะอาจทำให้เยื่อแก้วหูที่ทะลุเป็นรูหายช้า
    หลีกเลี่ยงการซื้อยาหยอดหูมาใช้เอง

ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    มีอาการไข้ ปวดหู หรือหูน้ำหนวกไหล
    ขาดยา ยาหาย หรือกินยาไม่ได้
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินที่บ้าน กินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน จุดแดงจ้ำเขียว หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ

การป้องกัน

1. หากเป็นโรคหูชั้นกลางอักเสบเฉียบพลัน ควรได้รับการดูแลรักษาจากแพทย์อย่างจริงจัง อย่าปล่อยให้กลายเป็นโรคหูน้ำหนวกเรื้อรัง

2. หลีกเลี่ยงการได้รับบาดเจ็บหรือการกระทบกระเทือนบริเวณหู เช่น การแคะหู การเล่นพลุ ประทัด เป็นต้น

3. ป้องกันหูบาดเจ็บจากความกดดันอากาศ

    ขณะเป็นหวัด หูชั้นกลางอักเสบ หรือไซนัสอักเสบ ควรหลีกเลี่ยงการนั่งเครื่องบินหรือดำน้ำลึก ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ ควรปรึกษาแพทย์ในการใช้ยาป้องกัน แพทย์อาจให้ยาพ่นจมูกที่เข้ายาแก้คัดจมูก (decongestant) เข้าจมูกทั้ง 2 ข้าง ข้างละ 4 ครั้ง หรือให้กินสูโดเอฟีดรีน ก่อนออกเดินทางหรือดำน้ำ 30-60 นาที (ถ้าเป็นการนั่งเครื่องบินเดินทางไกลควรกินก่อนเครื่องลง 30-60 นาที) ถ้าเป็นโรคหวัดภูมิแพ้ ก็จะให้กินยาแก้แพ้ก่อนออกเดินทางหรือดำน้ำ 30-60 นาที
    เวลานั่งเครื่องบิน ขณะเครื่องกำลังบินขึ้นหรือลง ควรทำท่าหาวและกลืนน้ำลาย หรือเคี้ยวหมากฝรั่ง (สำหรับทารกและเด็กเล็ก ให้เด็กดื่มนมหรือน้ำโดยให้อยู่ในท่านั่ง ถ้าดูดจากหลอดได้ให้เด็กใช้หลอดดูด กระตุ้นให้มีการกลืนบ่อย ๆ) เพื่อกระตุ้นให้ท่อยูสเตเชียนเปิด
    เวลาดำน้ำลึกควรดำลงอย่างช้า ๆ เพื่อให้หูมีเวลาปรับตัว

ข้อแนะนำ

เยื่อแก้วหูทะลุอาจเกิดจากการติดเชื้อหรือการบาดเจ็บที่บริเวณหู ควรได้รับการรักษาอย่างจริงจัง ไม่ปล่อยปละละเลยจนกลายเป็นโรคหูน้ำหนวกเรื้อรัง ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงหรือหูพิการถาวรได้

5
การสร้างอาชีพ จากการขายน้ำพริกขี้กา น้ำพริกโบราณไทยรสชาติอร่อยไม่เหมือนใคร

ประเทศไทยขึ้นชื่อเรื่องอาหารหลากหลายและรสชาติดี โดยพริกแกงมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มรสชาติให้กับอาหารหลายชนิด น้ำพริกขี้กาเป็นอีกชนิดที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักแต่มีรสชาติอร่อยอย่างไม่น่าเชื่อ พริกแกงไทยแบบดั้งเดิมที่มีรสชาติเข้มข้นและเผ็ดร้อน น้ำพริกขี้กาเป็นอาหารไทยชนิดหนึ่งมีลักษณะแห้งข้น คล้ายน้ำพริกเผา แต่มีสีดำ มีรสเผ็ด เค็ม หวานและมีกลิ่นหอมของสมุนไพร

น้ำพริกขี้กาคืออะไร ?
น้ำพริกขี้กาเป็นพริกเผาชนิดหนึ่งที่ทำจากวัตถุดิบที่คั่วจนหอมและมีรสขมเล็กน้อย ชื่อ “ขี้กา” หมายถึงพริกพันธุ์พื้นเมืองที่มักใช้ทำน้ำพริกชนิดนี้ เนื่องจากมีรสเผ็ดร้อนและมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว

ส่วนผสมที่สำคัญ
ส่วนผสมของน้ำพริกขี้หนูอาจแตกต่างกันเล็กน้อยในแต่ละภูมิภาค แต่ส่วนประกอบที่สำคัญโดยทั่วไปประกอบด้วย:
พริกแห้ง – มีรสเผ็ดและมีสีแดงเข้ม
หอมแดง – เพิ่มความหวานและความเข้มข้นของรสชาติ
กระเทียม – ช่วยเพิ่มกลิ่นหอมและรสชาติ
กะปิ – ให้รสชาติเค็มและเข้มข้น
น้ำมะนาว – เพิ่มรสชาติเปรี้ยวอมหวาน
น้ำตาลปาล์ม – ช่วยลดความเผ็ดลงและมีรสหวานเล็กน้อย
น้ำปลา – เพิ่มความเข้มข้นเผ็ดร้อนให้กับน้ำพริก

วิธีรับประทานน้ำพริกขี้กา
น้ำพริกชนิดนี้นิยมรับประทานคู่กับผักสด ผักนึ่ง ปลาทอด หรือไข่ลวก นอกจากนี้ยังสามารถนำไปคลุกข้าวสวยเพื่อปรุงอาหารจานง่ายๆ แต่รสชาติกลมกล่อม ผสมผสานรสชาติเผ็ด เค็ม เปรี้ยว และหวานเล็กน้อย ทำให้เป็นเครื่องปรุงรสอเนกประสงค์ที่ช่วยเสริมรสชาติให้กับอาหารจานใดๆ ก็ได้

ประโยชน์ต่อสุขภาพ
น้ำพริกขี้กานอกจากจะอร่อยแล้วยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกด้วย:
อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระจากพริกและกระเทียม ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกัน
ช่วยย่อยอาหารเนื่องจากมีส่วนผสมกะปิ
ทานคู่กับผักสดมีแคลอรี่ต่ำ

น้ำพริกขี้กาเป็นอัญมณีที่ซ่อนเร้นอยู่ในอาหารไทย นำเสนอรสชาติที่ผสมผสานระหว่างความเผ็ดร้อน ความหอมควัน และอูมามิ ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนอาหารรสเผ็ดหรือกำลังมองหาเครื่องปรุงรสไทยแบบดั้งเดิม น้ำพริกนี้ถือเป็นเมนูที่ต้องลอง จับคู่กับผักสดหรืออาหารไทยจานโปรดของคุณเพื่อสัมผัสรสชาติที่แท้จริงและอร่อย

6
การรับมือกับการสวมใส่เครื่องมือ EF LINE วันแรกๆ ของการจัดฟันเด็ก

การเริ่มต้นใส่เครื่องมือ EF LINE ในวันแรกๆ อาจเป็นเรื่องท้าทายทั้งกับเด็กและผู้ปกครองค่ะ เป็นเรื่องปกติที่เด็กจะรู้สึกไม่สบายตัว ไม่คุ้นชิน หรือแม้กระทั่งต่อต้านบ้างในช่วงแรก การเตรียมตัวและรู้วิธีรับมือจะช่วยให้กระบวนการปรับตัวเป็นไปอย่างราบรื่นมากขึ้น นี่คือข้อแนะนำสำหรับคุณพ่อคุณแม่ค่ะ


1. เตรียมตัวด้านจิตใจและสร้างความเข้าใจ

พูดคุยล่วงหน้า: ก่อนวันที่จะเริ่มใส่เครื่องมือ ให้พูดคุยกับลูกอีกครั้งเกี่ยวกับเครื่องมือ EF LINE อธิบายถึงเหตุผลที่ต้องใส่ (เช่น เพื่อให้ฟันสวย ยิ้มสวย หรือเคี้ยวอาหารได้ดีขึ้น) และอธิบายว่าจะรู้สึกอย่างไรบ้าง (อาจจะตึงๆ ไม่สบายปากบ้าง)

สร้างทัศนคติเชิงบวก: เน้นย้ำข้อดีของการใส่เครื่องมือ และชื่นชมความกล้าหาญของลูก สร้างความรู้สึกว่านี่คือการเดินทางที่น่าตื่นเต้น ไม่ใช่การลงโทษ

เป็นผู้ฟังที่ดี: เปิดโอกาสให้ลูกได้แสดงความรู้สึกกังวลหรือไม่สบายใจ รับฟังอย่างเข้าใจและให้กำลังใจ


2. จัดการกับความรู้สึกไม่สบายตัวทางร่างกาย

เป็นเรื่องปกติที่เด็กจะรู้สึกไม่สบายตัวในช่วงแรกๆ ดังนี้:

ปวดตึง/รู้สึกแน่น:

อาหารอ่อน: ในช่วง 2-3 วันแรก ให้ลูกรับประทานอาหารอ่อนๆ ที่ไม่ต้องเคี้ยวมาก เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม ซุป โยเกิร์ต ไข่ตุ๋น หรืออาหารบดละเอียด

ยาแก้ปวด: หากมีอาการปวดตึงมากจนรบกวน ให้ปรึกษาทันตแพทย์เรื่องการให้ยาแก้ปวดสำหรับเด็ก เช่น พาราเซตามอล

น้ำลายเยอะผิดปกติ:

เป็นเรื่องปกติ: ร่างกายจะตอบสนองต่อสิ่งแปลกปลอมในปากโดยการผลิตน้ำลายมากขึ้น อธิบายให้ลูกเข้าใจว่าเป็นเรื่องชั่วคราวและจะค่อยๆ ลดลงเมื่อคุ้นชิน

กลืนน้ำลาย: แนะนำให้กลืนน้ำลายตามปกติ ไม่ต้องบ้วนทิ้งบ่อยๆ

พูดไม่ชัด/ออกเสียงยาก:

ฝึกพูด: ชวนลูกคุย อ่านหนังสือออกเสียง หรือร้องเพลงบ่อยๆ ขณะใส่เครื่องมือ เพื่อให้ลิ้นและปากปรับตัวเข้ากับเครื่องมือ การฝึกบ่อยๆ จะช่วยให้พูดชัดขึ้นเร็ว

อดทนและให้กำลังใจ: อย่าตำหนิเมื่อลูกพูดไม่ชัด ให้กำลังใจและเข้าใจ

รู้สึกรำคาญ/คัน:

ใช้ขี้ผึ้งจัดฟัน (ถ้าทันตแพทย์แนะนำ): ในบางกรณีหากเครื่องมือสีกับเหงือกหรือเนื้อเยื่อในช่องปากจนเกิดแผล อาจปรึกษาทันตแพทย์เรื่องการใช้ขี้ผึ้งจัดฟันมาแปะตรงบริเวณที่ระคายเคือง

ความอดทน: อธิบายให้ลูกเข้าใจว่าร่างกายต้องใช้เวลาปรับตัว


3. สร้างวินัยในการสวมใส่เครื่องมือ

กำหนดเวลาที่ชัดเจน: ทันตแพทย์จะบอกระยะเวลาที่ต้องใส่เครื่องมือในแต่ละวัน (เช่น 2-3 ชั่วโมงในตอนกลางวัน และตลอดคืนขณะนอนหลับ) คุณพ่อคุณแม่ควรช่วยกำหนดตารางเวลาและสร้างกิจวัตรให้ลูกทำตามอย่างสม่ำเสมอ

เริ่มจากน้อยไปมาก: หากลูกต่อต้านมาก อาจเริ่มจากการใส่ช่วงสั้นๆ ในตอนกลางวันก่อน แล้วค่อยๆ เพิ่มเวลาขึ้นทีละน้อย เมื่อเด็กเริ่มคุ้นเคยและยอมรับ (แต่ต้องทำภายใต้คำแนะนำของทันตแพทย์)

สร้างแรงจูงใจ/รางวัลเล็กๆ: ให้คำชมเชยหรือรางวัลเล็กๆ เมื่อลูกให้ความร่วมมือในการใส่เครื่องมือตามกำหนด เช่น การ์ตูนเรื่องโปรด กิจกรรมที่ชอบ เพื่อเป็นกำลังใจ

หลีกเลี่ยงการต่อรอง: เมื่อตัดสินใจแล้วว่าต้องใส่ ก็ต้องสร้างความสม่ำเสมอ พยายามหลีกเลี่ยงการต่อรองหรือยอมให้ถอดก่อนเวลาอันควรบ่อยๆ


4. การดูแลและทำความสะอาดเครื่องมือ

ล้างทำความสะอาดทันทีที่ถอด: สอนลูกให้ล้างเครื่องมือด้วยน้ำเปล่าและแปรงสีฟันขนอ่อน (หรือแปรงสีฟันสำหรับฟันปลอม) ทันทีที่ถอดออก เพื่อกำจัดคราบน้ำลายและเศษอาหาร

เก็บในกล่องที่จัดมาให้: เมื่อไม่ใส่เครื่องมือ ควรเก็บในกล่องที่จัดมาให้เสมอ เพื่อป้องกันการสูญหายหรือเสียหาย

หลีกเลี่ยงน้ำร้อนจัด: ห้ามล้างเครื่องมือด้วยน้ำร้อนจัด เพราะอาจทำให้เครื่องมือเสียรูปทรงได้


5. การสื่อสารกับทันตแพทย์
แจ้งอาการผิดปกติ: หากลูกมีอาการปวดรุนแรง มีแผลในปากที่หายยาก เครื่องมือหักหรือหลวม ควรติดต่อทันตแพทย์ทันที เพื่อขอคำแนะนำหรือนัดหมายเข้าพบ

พบทันตแพทย์ตามนัด: การพบทันตแพทย์ตามนัดหมายเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพื่อให้ทันตแพทย์สามารถปรับเครื่องมือ ประเมินความคืบหน้า และแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ทันท่วงที

การสวมใส่เครื่องมือ EF LINE ในช่วงแรกอาจต้องใช้ความอดทนจากทั้งสองฝ่าย แต่ด้วยความเข้าใจ การสื่อสารที่ดี และการสนับสนุนจากคุณพ่อคุณแม่ จะช่วยให้ลูกน้อยผ่านพ้นช่วงการปรับตัวไปได้ และนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีของการจัดฟันในที่สุดค่ะ

7
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น

•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”

สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/


8
ประกาศขายฟรี / ปล่อยรถไมล์น้อย Mercedes-Benz EQE 350 4Matic SUV AMG Line ปี 2023
« เมื่อ: วันที่ 27 มิถุนายน 2025, 19:05:38 น. »
ปล่อยรถไมล์น้อย Mercedes-Benz EQE 350 4Matic SUV AMG Line ปี 2023

Mercedes-Benz EQE 350 4MATIC SUV AMG Line ปี 2023 เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า SUV หรูหรา โดยเป็นรุ่นนำเข้า (CBU) จากเยอรมนีในตอนเปิดตัวปี 2023

หมายเหตุ : รายละเอียดของรถยนตอ์าจมีการเปลี่ยนแปลงภายหลัง

รถผู้บริหาร รถทดลองขับ ไมล์น้อย ราคาและโปรโมชั่นพิเศษ

โปรโมชั่นพิเศษ
ตั้งแต่ 12 มิ.ย. - 30 มิ.ย. 2568
รถไฟฟ้า วิ่งไกล 558 กม.
ส่วนลด 1,310,000 บาท
วารันตี เริ่ม 28/12/2023 – 27/12/2026

ราคาพิเศษ 3,990,000 บาท

สนใจสอบถา มรายละเอียดกดลิ้ง https://www.checkraka.com/flashdeal/car

สมรรถนะ:

มอเตอร์ไฟฟ้า: มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ (Dual Permanently Excited Synchronous Motor - PSM)
ระบบขับเคลื่อน: 4 ล้อ (4MATIC All-Wheel Drive)
พละกำลังสูงสุด: 215 kW หรือประมาณ 292 แรงม้า (PS)
แรงบิดสูงสุด: 765 นิวตันเมตร (Nm)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: ประมาณ 6.6 วินาที
ความเร็วสูงสุด: 210 กม./ชม.

แบตเตอรี่และระยะทางวิ่ง:

ความจุแบตเตอรี่ (usable): 89 kWh หรือ 90.6 kWh (ตามข้อมูลจากหลายแหล่ง)
ระยะทางวิ่งสูงสุดต่อการชาร์จ (WLTP): ประมาณ 558 กิโลเมตร
การชาร์จไฟฟ้ากระแสสลับ (AC Charging): รองรับสูงสุด 11 kW (ชาร์จจาก 10-100% ประมาณ 9 ชั่วโมง 30 นาที ถึง 11.5 ชั่วโมง)
การชาร์จไฟฟ้ากระแสตรง (DC Fast Charging): รองรับสูงสุดประมาณ 170-173 kW สามารถชาร์จจาก 10-80% ได้ภายในประมาณ 32-33 นาที



9
ประกาศขายฟรี / รถยนต์ไฟฟ้า 2025: เนต้า Neta V II Smart ปี 2024
« เมื่อ: วันที่ 27 มิถุนายน 2025, 14:42:23 น. »
รถยนต์ไฟฟ้า 2025: เนต้า Neta V II Smart ปี 2024
459,000 บาท

เนต้า Neta V II Smart ปี 2024
NETA V-II Smart รถยนต์ไฟฟ้าที่หลายคนรอคอยรุ่นประกอบในประเทศไทย นับว่าเป็นไมเนอร์เชนจ์เล็ก ๆ เริ่มด้วยกระจังหน้าใหม่ลายตาข่ายดูหรูหราขึ้นกว่าเดิม ไฟท้ายลายใหม่พร้อมเส้นไฟยาวพาดเชื่อมถึงกัน และติดตั้งที่ปัดน้ำฝนกระจกหลัง เพิ่มระบบ ADAS - Adaptive Cruise Control แบต 36.1 kW วิ่งไกล 382 km. ชาร์จ DC ราคาจำหน่าย 569,000 บาท ปรับลดเหลือ 459,000 บาท มาพร้อมการรับประกัน ดังนี้
รับประกันคุณภาพรถยนต์ 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร
รับประกันคุณภาพมอเตอร์ไฟฟ้า 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร
รับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร

รายละเอียดเบื้องต้น
   แบรนด์            Neta
   รุ่น                 เนต้า Neta V II Smart ปี 2024
   ประเภทรถ        รถเก๋ง 5 ประตู, Electric - EV
   ปีที่เปิดตัว         2024
   ราคา             459,000 บาท

ดีไซน์
   ภายนอก
สปอยเลอร์หลัง
ปัดน้ำฝนกระจกหลัง
ไฟท้าย LED (แบบ Through-type LED)
ขนาดยางหน้า-หลัง (185/55R16)
ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ (LED)
อุปกรณ์ภายนอกอื่นๆ (แผ่นปิดห้องเครื่องด้านหน้า,ไฟแสดงสถานะการชาร์จแบตเตอรี่,ไฟส่องนำทางขณะดับเครื่องยนต์)
ยางอะไหล่สำรอง (จะได้เป็นชุดซ่อมยางฉุกเฉิน)
ไฟ Daytime Running Lights
ล้ออัลลอย (16 นิ้ว)

   ภายใน
กระจกมองหลังตัดแสง
อุปกรณ์ภายในอื่นๆ (เกียร์ไฟฟ้า)
พวงมาลัยไฟฟ้า

สเปค
   มอเตอร์ไฟฟ้า                  Permanent Magnet Synchronous Motor กำลัง 95 แรงม้า แรงบิด 150 นิวตันเมตร
   กำลังเครื่องยนต์ (แรงม้า)    แรงม้า
   ระบบเกียร์                      เกียร์อัตโนมัติ
   รูปแบบเกียร์
   ระบบเบรค ABS              มี
   ชนิดแบตเตอรี่                ไฟฟ้า
   ความจุแบตเตอรี่             36.1 kWh
   ระยะทางวิ่ง/การชาร์จ 1 ครั้ง      382 กม.
   น้ำหนักตัวรถ                            -
   ประเภทยางรถยนต์                    -
   ขนาดล้อ (นิ้ว)                     ล้ออัลลอย (16 นิ้ว)
   ระบบขับเคลื่อน                    ขับเคลื่อนล้อหน้า

ระบบความปลอดภัย
  อุปกรณ์ความปลอดภัย
ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (ESC,ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS)
ตัวถังนิรภัย (HSS Body)
ดิสก์เบรก 4 ล้อ
เซ็นทรัลล็อค (เมื่ออออกตัวรถ)
กุญแจรีโมท (Smart Key)
กุญแจนิรภัย (Immobilizer)
ไฟเบรกดวงที่ 3 (LED)
สัญญาณเตือนถอยหลัง
ระบบกระจายแรงเบรก EBD
อุปกรณ์เสริมความปลอดภัยอื่นๆ (ระบบป้องกันการไหลโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง,ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS,ระบบจัดการอุณหภูมิแบตเตอรี่ HEPT 3.0,ระบบช่วยเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่)
เข็มขัดนิรภัย (คู่หน้าแบบรั้งตัวและดึงกลับอัตโนมัติ,แถวหลังแบบ 3 จุด 3 ตำแหน่ง)
ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน (HAC/ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC)
อื่นๆ (ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน)
กล้อง (มองหลัง)
เทคโนโลยีสัญญาณเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์ด้านหน้าขณะขับขี่อัจฉริยะ (Intelligent Forward Collisio
เทคโนโลยีช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ (Intelligent Emergency Braking - IEB)
เบรกมือไฟฟ้า (EPB)
จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISOFIX)

10
หมอออนไลน์: โรคหัวใจขาดเลือด/โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ (Ischemic heart disease)

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

1. ในรายที่สงสัยเป็นโรคหัวใจขาดเลือดชั่วขณะ (มีอาการเจ็บแน่นหน้าอกเพียงชั่วขณะ เป็นบางครั้งบางคราว) แพทย์มักจะวินิจฉัยโดยการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (electrocardiography/ECG/EKG) ตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ (ดูว่าเป็นเบาหวาน มีภาวะไขมันในเลือดผิดปกติ หรือปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ หรือไม่)

ในกรณีที่คลื่นไฟฟ้าหัวใจบอกผลได้ไม่ชัดเจน* อาจจำเป็นต้องทำการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจซ้ำ หรือทำการตรวจพิเศษอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจขณะออกกำลังกาย (exercise stress test) โดยการวิ่งบนสายพานหรือปั่นจักรยาน การถ่ายภาพหัวใจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (echocardiography) การถ่ายภาพรังสีหลอดเลือดหัวใจ (coronary angiography) เป็นต้น

การรักษา แพทย์จะให้ยาขยายหลอดเลือดหัวใจกลุ่มไนเทรต เพื่อป้องกันและบรรเทาอาการเจ็บหน้าอก ได้แก่ ไนโตรกลีเซอรีน (nitroglycerine) หรือไอโซซอร์ไบด์ (isosorbide) อมใต้ลิ้นทันทีเมื่อมีอาการเจ็บหน้าอก ยานี้อาจมีผลข้างเคียงทำให้เกิดอาการปวดศีรษะแบบตุบ ๆ ที่ขมับคล้ายไมเกรน เนื่องจากหลอดเลือดที่ขมับขยายตัว บางรายอาจมีอาการเป็นลมขณะลุกขึ้นยืน ดังนั้นเวลาจะอมยากลุ่มนี้ ควรนั่งลงเสียก่อนอย่าอยู่ในท่ายืน

นอกจากนี้ อาจให้ยาขยายหลอดเลือดหัวใจชนิดออกฤทธิ์นาน เช่น ไอโซซอร์ไบด์ (isosorbide) ไดไพริดาโมล (dipyridamole) เพนตาอีริไทรทอล (pentaerythritol) เพื่อป้องกันมิให้เกิดอาการ

ผู้ป่วยทุกราย แพทย์จะให้ยาต้านเกล็ดเลือด ได้แก่ แอสไพริน ขนาด 81-325 มก. วันละครั้ง เพื่อไม่ให้เกล็ดเลือดจับเป็นลิ่มเกาะที่ผนังหลอดเลือดหัวใจมากขึ้น ถ้าแพ้แอสไพรินหรือมีข้อห้ามใช้ยานี้อาจให้ไทโคลพิดีน (ticlopidine) 250 มก. วันละ 2 ครั้ง หรือโคลพิโดเกรล (clopidogrel) 75 มก. วันละครั้ง

บางครั้งอาจต้องให้ยาปิดกั้นบีตา ยาต้านแคลเซียม หรือยาต้านเอซ ซึ่งสามารถลดการเกิดโรคกล้ามเนื้อหัวใจตาย และป้องกันการเสียชีวิตได้

ถ้าผู้ป่วยมีโรคที่เป็นสาเหตุ เช่น ภาวะไขมันในเลือดสูง เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ก็ต้องให้ยารักษาโรคเหล่านี้ร่วมด้วย

ในรายที่มีอาการเจ็บหน้าอกบ่อย หรือใช้ยาไม่ได้ผล แพทย์จะทำการสวนหัวใจและฉีดสีถ่ายภาพหลอดเลือดหัวใจ (cardiac catheterization and  angiogram) ถ้าพบว่ามีการอุดกั้นรุนแรงหรือหลายแห่ง ก็จะทำการแก้ไขโดยการขยายหลอดเลือดด้วยบอลลูน (นิยมเรียกว่า การทำบอลลูน)** และใส่หลอดลวดตาข่าย (stent) คาไว้ในหลอดเลือดบริเวณที่ตีบตัน

ในบางครั้งแพทย์อาจพิจารณาทำการผ่าตัดเปิดทางระบาย (ทางเบี่ยง) ของหลอดเลือดหัวใจ (นิยมเรียกว่า การผ่าตัดบายพาส)*** วิธีนี้มักใช้กับผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บหน้าอกรุนแรง ใช้ยารักษาไม่ได้ผล หรือไม่สามารถทำบอลลูนหรือทำบอลลูนไม่ได้ผล

2. ถ้ามีอาการเจ็บหน้าอกรุนแรงหรือต่อเนื่องเป็นชั่วโมง ๆ ถึงเป็นวัน ๆ มีภาวะหัวใจวาย ช็อกหรือหมดสติ หรือมีอาการเจ็บหน้าอกรุนแรงและบ่อยขึ้นกว่าเดิม หรือมีอาการเจ็บหน้าอกขณะพักหรือออกแรงเพียงเล็กน้อย

แพทย์จะทำการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ตรวจเลือด (มักพบระดับ creatine kinase-MB และ troponin ในเลือดสูงกว่าปกติในผู้ป่วยที่มีโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน) และตรวจพิเศษอื่น ๆ ถ้าพบว่าเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจตาย หรือโรคหัวใจขาดเลือดชั่วขณะแบบไม่คงที่ (unstable angina) ก็จะรับตัวไว้รักษาในโรงพยาบาล

การรักษา ในรายที่เป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน แพทย์จะให้แอสไพรินเคี้ยวก่อนกลืน (ถ้ายังไม่ได้รับมาก่อน ซึ่งจะช่วยลดขนาดของลิ่มเลือดที่อุดตัน ช่วยให้รอดชีวิตได้) ให้ยาปิดกั้นบีตา (เพื่อลดอัตราการเต้นของหัวใจ ลดการทำงานของหัวใจ ป้องกันไม่ให้กล้ามเนื้อหัวใจถูกทำลายมากขึ้น) ให้ยาต้านเอซ (เพื่อลดการพองตัวของหัวใจ รักษาภาวะหัวใจวาย ช่วยลดการตายลงได้) ฉีดมอร์ฟีนระงับปวด และให้ออกซิเจน

นอกจากนี้ แพทย์อาจพิจารณาให้การรักษาขั้นต่อไป คือ การให้ยาละลายลิ่มเลือด (thrombolytic  agent ได้แก่ ทีพีเอ (tPA/recombinant tissuetype plasminogen activator) หรือสเตรปโตไคเนส (streptokinase) ฉีดเข้าทางหลอดเลือดดำ (ซึ่งจะได้ผลดีเมื่อให้ภายใน 6 ชั่วโมงหลังเกิดอาการ) หรือไม่ก็อาจพิจารณาทำบอลลูนหรือผ่าตัดบายพาสแบบฉุกเฉิน

บางกรณี แพทย์อาจให้สารกันเลือดเป็นลิ่ม ได้แก่ เฮพารินชนิดน้ำหนักโมเลกุลต่ำ (low molecular weight heparin/LMWH) เสริมในรายที่ให้ทีพีเอ (tPA) หรือทำบอลลูน

ใน 2-3 วันแรก ผู้ป่วยจำเป็นต้องนอนพักอยู่บนเตียง (ห้ามลงจากเตียง) ผู้ป่วยต้องงดสูบบุหรี่โดยเด็ดขาด แพทย์จะให้ยาระบายเพื่อไม่ให้ผู้ป่วยเบ่งถ่ายอุจจาระเพราะท้องผูก ให้ยาจิตประสาทเพื่อควบคุมภาวะวิตกกังวลหรือซึมเศร้า โดยทั่วไปหากไม่มีภาวะแทรกซ้อนผู้ป่วยจำเป็นต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาลนาน 5-7 วัน เมื่ออาการทุเลาดีแล้ว ก็จะเริ่มทำกายภาพบำบัดฟื้นฟูสภาพหัวใจให้แข็งแรง และให้ยารักษาแบบเดียวกับโรคหัวใจขาดเลือดชั่วขณะอย่างต่อเนื่องต่อไป

สำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจขาดเลือดชั่วขณะแบบไม่คงที่ แพทย์จะรับตัวไว้รักษาในโรงพยาบาลเพื่อเฝ้าสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด ให้ยาแบบเดียวกับโรคหัวใจขาดเลือดทั่วไป รวมทั้งให้สารกันเลือดเป็นลิ่ม (ได้แก่ เฮพาริน) และยาต้านเกล็ดเลือด (เช่น แอสไพริน ไทโคลพิดีน หรือโคลพิโดเกรล) ให้ยาปิดกั้นบีตา และให้ไนโตรกลีเซอรีนชนิดฉีดเข้าทางหลอดเลือดดำ เพื่อลดการทำงานของหัวใจ ถ้าไม่ตอบสนองต่อการรักษาทางยา ก็จะทำการถ่ายภาพรังสีหลอดเลือดหัวใจและทำบอลลูนหรือผ่าตัดบายพาส

ผลการรักษา ขึ้นกับความรุนแรงของโรค สภาพของผู้ป่วย โรคที่พบร่วม และวิธีรักษา

ในรายที่เป็นโรคหัวใจขาดเลือดชั่วขณะแบบเป็น ๆ หาย ๆ เรื้อรัง มักได้ผลการรักษาที่ดี การใช้แอสไพรินสามารถป้องกันไม่ให้กลายเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจตาย และลดการตายลงได้ ส่วนการทำบอลลูนและการผ่าตัดบายพาส ช่วยให้ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงอยู่รอดปลอดภัยมากขึ้น

ปัจจัยที่ทำให้ผลการรักษาไม่สู้ดี ได้แก่ ผู้ป่วยอายุมาก เป็นเบาหวาน ความดันโลหิตสูง สูบบุหรี่ มีอาการรุนแรง มีภาวะแทรกซ้อน (เช่น หัวใจวาย)

ผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจขาดเลือดแบบไม่คงที่ ถ้าเริ่มมีกล้ามเนื้อหัวใจตายบางส่วน หรือมีความล่าช้าในการถ่ายภาพรังสีหลอดเลือดหัวใจและการบำบัดที่เหมาะสม ผลการรักษามักจะไม่ดี

ผู้ป่วยที่เป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน ถ้าเป็นรุนแรงหรือกล้ามเนื้อหัวใจถูกทำลายปริมาณมาก ก็มักจะเสียชีวิตอย่างรวดเร็วหรือทันทีทันใด ในรายที่สามารถมีชีวิตรอดได้ 2-3 วันหลังเกิดอาการก็มักจะฟื้นตัวจนเป็นปกติได้ ซึ่งบางรายอาจกำเริบซ้ำและเสียชีวิตภายใน 3-4 เดือนถึง 1 ปีต่อมา  ผู้ป่วยกลุ่มนี้มักมีอาการต่อเนื่อง เช่น เจ็บหน้าอกเป็นครั้งคราว หัวใจเต้นผิดจังหวะหรือภาวะหัวใจวาย มักพบอัตราตายและการเกิดภาวะแทรกซ้อนสูงในผู้ป่วยที่เป็นเบาหวาน หรือมีภาวะหัวใจห้องบนเต้นแผ่วระรัว ร่วมด้วย

ส่วนในรายที่ได้รับการทำบอลลูนหรือผ่าตัดบายพาส มักจะฟื้นสภาพได้ดี และมีชีวิตได้ยืนยาวขึ้น แต่บางรายก็อาจมีหลอดเลือดหัวใจตีบตันซ้ำ ซึ่งอาจต้องทำบอลลูนหรือผ่าตัดบายพาสซ้ำ

*การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจมีความไวในการวินิจฉัยโรคนี้ประมาณร้อยละ 50-75 หมายความว่า ประมาณร้อยละ 50-75 ของผู้ที่เป็นโรคหัวใจขาดเลือด ผลการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจจะบอกว่าผิดปกติ และประมาณร้อยละ 25-50 ผลการตรวจจะบอกว่าปกติ เรียกว่า ผลลบลวง (false negative) อาจทำให้วินิจฉัยผิดได้

**การขยายหลอดเลือดด้วยบอลลูน (percutaneous transluminal coronary angioplasty/PTCA) แพทย์จะใช้สายที่มีบอลลูน (balloon) อยู่ตรงปลาย สอดใส่เข้าหลอดเลือดแดงต้นขา (femoral artery) แล้วแยงขึ้นไปจนเข้าไปตรงบริเวณหลอดเลือดหัวใจที่ตีบตัน แล้วเป่าลมให้บอลลูนพองตัว ดันตะกรันท่อเลือดแดง (atheroma) ให้แฟบและทำการขยายหลอดเลือด

***การผ่าตัดบายพาส (bypass surgery หรือ coronary artery bypass grafting/CABG) เป็นการผ่าตัดโดยนำหลอดเลือดจากส่วนอื่น (เช่น หลอดเลือดขา) ไปต่อเชื่อมระหว่างหลอดเลือดหัวใจ (ส่วนที่ยังไม่มีการตีบตัน) กับหลอดเลือดแดงใหญ่

11
คอนโดติดรถไฟฟ้า ดิ ออริจิ้น อ่อนนุช (The Origin Onnut)
เริ่มต้น 1.79 ลบ.

ดิ ออริจิ้น อ่อนนุช (The Origin Onnut)
คอนโดติดถนนอ่อนนุช ใกล้รถไฟฟ้าสถานีอ่อนนุช ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของคนเมือง ได้ความเป็นส่วนตัวเพียง 399 ยูนิต ใกล้ร้านสะดวกซื้อ เซเว่น อีเลฟเว่น, ใกล้ห้างสรรพสินค้า MAKRO, BIG C และใกล้สถาบันการศึกษา BANGKOK PREP SCHOOL

 รายละเอียดโครงการ
 ชื่อโครงการ                 ดิ ออริจิ้น อ่อนนุช (The Origin Onnut)
 เจ้าของโครงการ            ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้
 แบรนด์ย่อย                 ดิ ออริจิ้น
 ราคา                        เริ่มต้น 1.79 ลบ.
 ราคาเฉลี่ยต่อตร.ม.       เริ่มต้น 60,000 บ./ตร.ม.
 ลักษณะทำเล              คอนโดย่านธุรกิจกลางเมือง, คอนโดใกล้ขนส่งสาธารณะ
 ความสูงคอนโด           Low Rise (ไม่เกิน 8 ชั้น)
 ลักษณะกรรมสิทธิ์        โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 ประเภทห้องที่มี          1 ห้องนอน
 ขนาดห้องที่มี            ตั้งแต่ 21.50 ถึง 34.00 ตร.ม.
 เนื้อที่ทั้งหมด             2 ไร่ 3 งาน 23 ตร.ว.
 จำนวนตึก                 2 อาคาร
 จำนวนชั้น                 8 ชั้น
 จำนวนห้อง              399 ยูนิต และร้านค้า 3 ยูนิต
 ที่จอดรถทั้งหมด        35% รวมจอดซ้อนคัน
 ค่าบำรุงส่วนกลาง       โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 สาธารณูปโภค          สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, รปภ., กล้องวงจรปิดโครงการ, รถรับส่ง, ร้านค้า, อื่นๆ (Lobby, Observation Deck, Co-Passion Space, Pocket Garden, Pool Lounge, Sky Garden), Co-Working Space

 สถานที่ใกล้เคียง
 โซน           ประเวศ, พระโขนง, สวนหลวง
 ที่ตั้ง          ซอยสุขุมวิท 77 ถนนอ่อนนุช แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กทม.

 ขนส่งสาธารณะ
รถไฟฟ้า:               ใกล้รถไฟฟ้า, รถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม, สถานีหมอชิต - แบริ่ง(อ่อนนุช)

 สถานที่สำคัญใกล้เคียง
บี๊กซี เอ็กซ์ตร้า อ่อนนุช
ฮาบิโตะ มอลล์
เทสโก้ โลตัส สุขุมวิท 50
เซ็นจูรี่ เดอะมูฟวี่พลาซ่า
พีเพิลพาร์ค อ่อนนุช
แม็คโคร ฟูดเซอร์วิส สาขาอ่อนนุช
ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์
โรงเรียนนานาชาติบางกอกเพรพ
โรงเรียนนานาชาติเวลส์ อ่อนนุช

12
การจัดฟันเด็ก ในช่วงที่ฟันกำลังพัฒนามีข้อดีอย่างไร
 
การจัดฟันในเด็ก เป็นการรักษาทางทันตกรรมในเด็กที่ได้รับความนิยมากในปัจจุบัน เพราะพ่อแม่ผู้ปกครองหลายคนอาจจะมองเล็งเห็นถึงปัญหาที่เกี่ยวกับช่องปากและฟันที่อาจจะส่งผลต่อพัฒนาการของเด็กได้อนาคต ซึ่งการจัดฟันในเด็กนั้นสามารถทำได้ตั้งแต่ตอนที่เด็กอายุ 6-7 ขวบ พ่อแม่ผู้ปกครองควรนำเด็กๆ อายุต่ำว่า 10 ปี มาตรวจกับทันตแพทย์จัดฟันได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องรอจนถึงวัยรุ่นเพราะเป็นช่วงที่ฟันกำลังพัฒนาและขากรรไกรเติบโต และถ้าตรวจพบปัญหาฟันซ้อน การสบฟันผิดปกติ จะสามารถแก้ไขได้ง่ายมากกว่าการจัดฟันตอนเป็นผู้ใหญ่แล้ว

ซึ่งส่วนใหญ่ทันตแพทย์จัดฟันจะแนะนำให้เด็กที่มีปัญหาเกี่ยวกับฟัน เข้ารับการจัดฟันตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะการที่เด็กในวัยที่กำลังมีการเจริญเติบโตของฟัน สามารถแก้ไขปัญหาได้ดีกว่าตอนโตแล้ว ซึ่งหากอายุมากขึ้น การแก้ไขปัญหาฟันก็จะยิ่งซับซ้อนมากขึ้นนั่นเอง ในการจัดฟันในเด็กนั้น ยังเป็นการสร้างทันตคติเกี่ยวกับการดูแลช่องปากและฟันของเด็กได้อย่างดีอีกด้วย

เพราะมองว่า เมื่อเด็กเข้ารับการจัดฟันในเด็กแล้ว จะต้องดุแลเอาใจใส่และต้องดูแลรักษาความสะอาดของช่องปากและฟันมากกว่าคนปกติ ดังนั้น
การจัดฟันในเด็ก จึงมีประโยชน์ต่อตัวเด็กในหลายๆด้าน ซึ่งการเข้ารับการจัดฟัน ก็จะช่วยแก้ไขปัญหาฟันได้ และยังเป็นการป้องกันและรักษาความผิดปกติของฟันให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องเหมาะสมและมีการบดเคี้ยวที่ดีขึ้นได้ โดยการใช้เครื่องมือจัดฟันเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาการเรียงตัวของฟันและการสบฟันที่ผิดปกติ ไม่สวยงาม และไม่เป็นระเบียบ ให้มีโครงสร้างและรูปร่างใบหน้าที่ดีและสวยงามขึ้น ซึ่งเครื่องมือจัดฟันที่ใช้จะช่วยเคลื่อนฟันไปยังตำแหน่งที่เหมาะสมเพื่อประโยชน์ของสุขภาพช่องปากและฟัน
 
สำหรับวันนี้ทางคลินิกของเราจะมาพูดถึงการจัดฟันในเด็กในช่วงที่ฟันกำลังพัฒนามีข้อดีอย่างไร เพื่อเป็นข้อมูลและแนวทางให้พ่อแม่ผู้ปกครองได้ตระหนักและตัดสินใจที่จะพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็ก หลายคนทราบกันดีอยู่แล้วว่า การจัดฟันนั้น สามารถทำได้ตั้งแต่เด็กถึงผู้ใหญ่ แต่ช่วงเวลาและวัยที่เหมาะสมที่สุดคือช่วงอายุประมาณ 10-14 ปี เนื่องจากร่างกายกำลังเจริญเติบโต มีการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างใบหน้ามากที่สุด

ทำให้ฟันสามารถเคลื่อนที่ได้ง่ายเป็นประโยชน์ต่อการจัดฟัน แต่หากอายุมากแล้วหรือประมาณ 30 ปีขึ้นไป อาจต้องใช้ระยะเวลาในการจัดฟันที่นานกว่าปกติ ดังนั้นจึงควรรักษาสุขภาพช่องปากให้ดีและปรึกษาทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนรับการรักษา นอกจากนี้ การที่พาเด็กเข้ารับการจัดฟันก่อนอายุ 13 ปีนั้น นอกจากจะทำให้ฟันเข้ารูปเรียงตัวกันสวยงามตามธรรมชาติได้ง่ายกว่าในวัยเจริญเติบโตแล้ว ยังทำให้ใบหน้าเข้ารูปสวยงามได้อีกด้วย

ซึ่งต่างจากการจัดฟันตอนที่อยู่ในช่วงใกล้หยุดเจริญเติบโต หรือในช่วงเด็กโตเนื่องจากฟันจะเข้ารูปยากกว่าแถมไม่ช่วยเรื่องโครงหน้าอีกด้วย เหมาะสำหรับเด็กที่มีปัญหาเกี่ยวกับโครงสร้างของใบหน้า หรือมีความผิดปกติของกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้าที่อาจจะมีสาเหตุมาจากพันธุกรรมหรือพฤติกรรมในวัยเด็ก ก็สามารถเข้ารับการจัดฟันในเด็กได้ และภายหลังการจัดฟัน พ่อแม่ผู้ปกครองควรให้เด็กดูแลตนเองด้วยการรักษาความสะอาดของฟันและเครื่องมือจัดฟันให้สะอาด

โดยใช้แปรงสีฟันสำหรับผู้ที่จัดฟันโดยเฉพาะ ทำความสะอาดภายหลังรับประทานอาหารทุกมื้อและก่อนเข้านอน รักษาเครื่องมือจัดฟันให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่ให้หลุดหักหรือบิดเบี้ยว ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่แข็งและเหนียวรวมทั้งของหวาน ระมัดระวังเมื่อเล่นกีฬาที่อาจเกิดการกระทบกระทั่งรุนแรง รวมถึงปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัด และพบทันตแพทย์ตามนัดหมาย เพียงเท่านี้ก็จะทำให้เด็กมีฟันที่สวยงามตั้งแต่อายุยังน้อย ลดความเสี่ยงของการเกิดปัญหาฟันในตอนโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
 
หากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใด สนใจให้บุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็ก ก็สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิกเพราะทางเรามีทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการจัดฟันในเด็ก และยังมีระสบการณ์ด้านทันตกรรมเด็กมาอย่างยาวนาน พร้อมที่จะให้คำแนะนำและคำปรึกษาสำหรับเด็กที่อยากเข้ารับการจัดฟันในเด็ก เพื่อที่จะได้มีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีตั้งแต่อายุยังน้อย

13
“สร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน” สไตล์ครูแมกซ์

จุดเริ่มต้นเพียงแค่ไม่มีใจรักการเป็นลูกน้อง และไม่ชอบการทำงานในองค์กร บวกกับมีความตั้งใจที่ว่า อยากฝึกทักษะการทำอาหารไว้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ทานตอนท่านแก่
พร้อมกับคำพูดของคุณแม่ที่ชอบบอกว่า “การขายของมันได้จับเงินทุกวัน” นั่นคือจุดตัดสินใจ

ครูแมกซ์
จุดเริ่มต้นง่ายๆก็เริ่มจากการเรียนรู้จากคุณแม่ของครูแมกซ์เอง ท่านเป็นคนทำอาหารไทยอร่อย และเคยเปิดร้านอาหารมาก่อนตอนครูแมกซ์เด็กๆ
โดยใช้การถาม สังเกตอย่างละเอียด และฝึกชิมรสชาติของอาหารที่แท้จริง (เพราะคุณแม่ไม่เคยชั่งตวงวัดแม่บอกชิมให้เป็นไม่ต้องมาถามสูตร555)
ร่วมกับการเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น ยูทูป ดูทุกวันตลอดระยะเวลา 8-10ปี พร้อมกับการซื้อวัตถุดิบมาลงมือทำจริง ชิมจริง ทำให้คคุณแม่ทานจริง

ครูแมกซ์
จนถึงจุดที่มั่นใจแล้วว่า…จะทำอาหารเพื่อสร้างรายได้เริ่มง่ายๆจากครัวที่บ้าน
จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลา15ปี ที่ครูแมกซ์มีรายได้จากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการยืนขายสลัดริมถนนหน้าตึกชาญอิสะ2 เปิดรับออเดอร์ลุกค้าในหมู่บ้าน การพรีออเดอร์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งการออกบูทตามห้างดังต่างๆ

ทั้งหมดนี้ผ่านการทำจริง ได้ผลลัพธ์จริงมาทั้งหมดแล้วด้วยตัวครูแมกซ์เองคนเดียว (แบบไม่เลือกการมีลูกน้อง)

จึงมั่นใจมากว่าจากประสบการณ์ทั้งหมดที่ครูแมกซ์สั่งสมมาตลอดจนถึงวันนี้

ไข่เจียว
ครูแมกซ์ได้พิสูจน์แล้วว่า…การสร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน “มันทำได้จริง”
ครูแมกซ์ก็พร้อมที่จะถ่ายทอดทุกสูตรลัด แบไต๋ทุกเคล็ดลับให้คุณแบบหมดเปลือก!!  !!ความตั้งใจนั้นมันก็ได้เกิด”ผลลัพธ์”กับลูกศิษย์ครูแมกซ์เรียบร้อยแล้ว

📌น้องมิ้นท์ นักเรียนคอร์สไพรเวทจับมือทำรอบสด
ลาออกจากงานประจำเพื่อมาเปิดร้านขายอาหาร หลังจากเรียนกับครูแมกซ์ไปเพียงแค่3วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับพรีออเดอร์จากอาพาร์ทเมนต์ (โดยมีครูแมกซ์เป็นที่ปรึกษาตลอด1เดือนเต็ม) เริ่มจากเมนูง่ายๆที่ครูแมกซ์เลือกให้เป็นเมนูประจำร้าน คือ “เมนูไข่ฟูหมูฉ่ำนัว”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 68
สรุปได้ยอดขาย 60,000 บาท (ทำด้วยตัวคนเดียว)

📌น้องเติ๊ด นักเรียนคอร์สออนไลน์
เป็นพนักงานประจำหัวหน้าแผนกHR อยากหาอาชีพเสริมเพื่อวางแผนลาออกจากงานประจำ หลังจากเรียนคอร์สครูแมกซ์ภายใน 7 วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับออเดอร์ที่คอนโด เริ่มจากเมนูง่ายๆที่เรียนจากคอร์สสูตรกะเพรา กับ คอร์ส10เมนูไข่ทำง่ายรายได้ปัง เมนูประจำร้าน คือ “เมนูข้าวไข่เจียว ไข่ข้น”
‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายได้มากกว่าเงินเดือนประจำเป็นที่เรียนร้อยแล้ว พร้อมกับยื่นใบลาออก (แต่นายยังไม่อนุมัติ)


สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://web.facebook.com/profile.php?id=61569480015186
เว็บไซด์ : https://krumax.net/krumaxcourse/
เบอร์โทร : 081-413-4479


14
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”

สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/


15
ปล่อยรถราคาพิเศษ Mercedes-Benz S 350L AMG มีโปรโมชั่นพิเศษมากมาย

Mercedes-Benz S-Class ในรุ่น S 350L AMG คือการผสมผสานระหว่างความหรูหราขั้นสูงสุดของ S-Class (ตัว "S" หมายถึง Sonderklasse หรือ "Special Class") ความยาวฐานล้อที่เพิ่มขึ้น (ตัว "L" หมายถึง Long Wheelbase) เพื่อเพิ่มพื้นที่ห้องโดยสารด้านหลัง และชุดแต่ง AMG ที่ให้รูปลักษณ์สปอร์ตและสมรรถนะที่น่าประทับใจยิ่งขึ้น

ในตลาดประเทศไทย รุ่น S 350L AMG มักจะเป็นรุ่นย่อยที่ได้รับความนิยม เนื่องจากเป็น S-Class ที่มีสมรรถนะดีพอตัว หรูหรา และยังคงความสปอร์ตด้วยชุดแต่ง AMG

ข้อมูลทั่วไปและรุ่นปี
Mercedes-Benz S 350L AMG มีการทำตลาดมาหลายเจเนอเรชั่น โดยรุ่นที่กำลังเป็นที่พูดถึงในปัจจุบัน (และมีการจำหน่ายในไทย) คือ S-Class (W223) ซึ่งเปิดตัวในประเทศไทยประมาณปี 2021 และมีการประกอบในประเทศ (CKD)

S 350L d AMG Premium (W223) เป็นรุ่นที่ถูกนำเข้ามาประกอบในประเทศ ทำให้มีราคาที่น่าสนใจขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นนำเข้าทั้งคัน

หมายเหตุ : รายละเอียดของรถยนตอ์าจมีการเปลี่ยนแปลงภายหลัง

รถผู้บริหาร รถทดลองขับ ไมล์น้อย ราคาและโปรโมชั่นพิเศษ

โปรโมชั่นพิเศษ
ตั้งแต่ 13 มิ.ย. - 30 มิ.ย. 2568
Full Option

ราคาพิเศษ 959,000 บาท

สนใจสอบถา มรายละเอียดกดลิ้ง https://www.checkraka.com/flashdeal/car

ขุมพลังและสมรรถนะ (สำหรับ S 350 d AMG Premium W223)

Mercedes-Benz S 350 d AMG Premium (W223) ใช้เครื่องยนต์ดีเซลซึ่งเป็นที่นิยมในตลาดหลายประเทศ เนื่องจากความประหยัดและแรงบิดที่ดี:

เครื่องยนต์: ดีเซล 6 สูบเรียง (Inline-6) ขนาด 3.0 ลิตร (2,925 ซีซี) พร้อมเทอร์โบชาร์จเจอร์แบบ 2-stage (Bi-Turbo) และอินเตอร์คูลเลอร์
กำลังสูงสุด: 286 แรงม้า ที่ 3,400-4,600 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด: 600 นิวตันเมตร ที่ 1,200-3,200 รอบ/นาที
ระบบส่งกำลัง: เกียร์อัตโนมัติ 9G-TRONIC 9 จังหวะ
ระบบขับเคลื่อน: ขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: ประมาณ 6.4 วินาที
ความเร็วสูงสุด: 250 กม./ชม. (จำกัดด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์)


หน้า: [1] 2 3 ... 49