ดอกบัวในโถแก้ว: วิธีทำดอกไม้แห้ง มีวิธีการทำอย่างไรการทำดอกไม้แห้งมีหลากหลายวิธี ซึ่งแต่ละวิธีก็มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันไป และเหมาะกับดอกไม้คนละประเภท เพื่อให้คุณได้ดอกไม้แห้งที่สวยงามและคงทนที่สุด
1. การแขวนกลับหัวตากลม (Air Drying / Hanging Dry)
เป็นวิธีที่คลาสสิกที่สุด ง่ายที่สุด และเป็นธรรมชาติที่สุด ไม่ต้องใช้อุปกรณ์พิเศษมากนัก
เหมาะสำหรับ: ดอกไม้ที่มีก้านแข็งแรงและกลีบไม่ช้ำง่าย เช่น กุหลาบ, ยิปโซฟิลล่า (ยิปโซ), สแตติส, ลาเวนเดอร์, ยูคาลิปตัส, ไฮเดรนเยีย (ควรตากเมื่อดอกเริ่มเป็นสีออกเขียวๆ จะสวยและแห้งง่ายกว่าตอนบานสดๆ)
อุปกรณ์:
ดอกไม้สดที่เลือกแล้ว
เชือก หรือยางรัด
กรรไกร
ขั้นตอน:
เตรียมดอกไม้: เลือกดอกไม้ที่เพิ่งบานเต็มที่ หรือบานประมาณ 70-80% ไม่มีรอยช้ำหรือตำหนิ
ตัดแต่ง: เด็ดใบที่อยู่ส่วนล่างของก้านออกให้หมด เพราะใบจะแห้งช้ากว่าดอกและอาจทำให้เกิดเชื้อราได้
มัดรวม: มัดก้านดอกไม้รวมกันเป็นช่อเล็กๆ (ประมาณ 3-5 ดอกต่อช่อ) ด้วยเชือกหรือยางรัด โดยไม่มัดแน่นจนเกินไป เพื่อให้ลมเข้าถึงได้ทั่วถึงทุกดอก
แขวนกลับหัว: แขวนช่อดอกไม้แบบกลับหัวลง ในบริเวณที่ อากาศถ่ายเทได้ดี แห้งสนิท และสำคัญที่สุดคือ "ไม่มีแสงแดดส่องโดยตรง" (แสงแดดจะทำให้สีดอกไม้ซีดจางลงอย่างรวดเร็ว) เช่น ในห้องเก็บของ, ตู้เสื้อผ้าที่เปิดระบายอากาศ, หรือมุมห้องที่มืดและแห้ง
รอ: ทิ้งไว้ประมาณ 2-4 สัปดาห์ (ขึ้นอยู่กับชนิดดอกไม้และความชื้นในอากาศ) จนกว่าดอกไม้จะแห้งสนิทและกรอบ เมื่อสัมผัสแล้วไม่มีความชื้น ก็เป็นอันใช้ได้
ผลลัพธ์: ดอกไม้จะคงรูปทรง 3 มิติ แต่สีอาจจะจางลงเล็กน้อย (ได้ความสวยงามแบบวินเทจ)
2. การอบแห้งด้วยสารดูดความชื้น (Silica Gel Drying)
วิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการ คงสีสันและรูปทรง ของดอกไม้ให้สวยงามเหมือนดอกไม้สดมากที่สุด
เหมาะสำหรับ: ดอกไม้ส่วนใหญ่ที่ต้องการคงรูปทรง 3 มิติและสีสันให้เหมือนจริงที่สุด เช่น กุหลาบ, ไฮเดรนเยีย, พีโอนี, คาร์เนชั่น
อุปกรณ์:
ดอกไม้สด
ซิลิกาเจล (Silica Gel) ชนิดเม็ดเล็กละเอียดสำหรับทำดอกไม้แห้งโดยเฉพาะ
ภาชนะมีฝาปิดสนิท (เช่น กล่องพลาสติกแบบมีคลิปล็อก, โหลแก้ว)
กรรไกร, ช้อนเล็กๆ หรือแปรงขนนุ่ม
ขั้นตอน:
เตรียมดอกไม้: ตัดก้านดอกไม้ให้สั้นลง เหลือประมาณ 1-2 นิ้ว หรือเฉพาะส่วนดอก เด็ดใบส่วนเกินออก
เทซิลิกาเจลรองพื้น: เทซิลิกาเจลลงในภาชนะประมาณ 1-2 นิ้ว เพื่อทำเป็นฐานรองรับดอกไม้
วางดอกไม้: วางดอกไม้ลงบนซิลิกาเจล โดยจัดทรงดอกให้สวยงาม
กลบดอกไม้: ค่อยๆ ใช้ช้อนตักซิลิกาเจลโรยกลบดอกไม้ให้มิด โดยพยายามให้เม็ดซิลิกาเจลแทรกซึมเข้าไปในกลีบดอกให้ทั่วถึง และไม่ให้ดอกไม้ถูกบดทับ (อาจใช้ปลายแปรงช่วยจัดกลีบ)
ปิดฝาให้สนิท: ปิดฝาภาชนะให้แน่นหนา เพื่อป้องกันไม่ให้อากาศภายนอกและความชื้นเข้าไป
รอ: ทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้อง ประมาณ 2-7 วัน (ขึ้นอยู่กับชนิด ขนาด และความหนาของดอกไม้) จนกว่าดอกไม้จะแห้งสนิทและกรอบ
นำออก: ค่อยๆ เทซิลิกาเจลออกอย่างเบามือ แล้วใช้แปรงขนนุ่มๆ ปัดซิลิกาเจลที่เกาะอยู่ตามกลีบดอกออกให้หมดอย่างระมัดระวัง
ผลลัพธ์: คงสีสันและรูปทรงได้ดีเยี่ยม เหมือนดอกไม้สดมากที่สุด
3. การทับดอกไม้ (Flower Pressing)
เหมาะสำหรับดอกไม้ที่มีกลีบบางและต้องการนำไปใช้งานแบบแบน
เหมาะสำหรับ: ดอกไม้ที่มีกลีบแบนและไม่หนามาก เช่น แพนซี่, เดซี่, ไวโอเล็ต, กลีบกุหลาบ, ใบไม้
อุปกรณ์:
ดอกไม้สด
หนังสือเล่มหนาๆ และหนัก (หรือเครื่องทับดอกไม้)
กระดาษซับน้ำ (เช่น กระดาษหนังสือพิมพ์, กระดาษร้อยปอนด์, กระดาษซิลิโคน)
ขั้นตอน:
เตรียมดอกไม้: เลือกดอกไม้ที่เพิ่งบานเต็มที่ ไม่มีรอยช้ำ หรือดอกไม้ที่มีกลีบแบน
จัดวาง: วางดอกไม้ลงบนกระดาษซับน้ำ โดยจัดกลีบดอกให้สวยงามตามต้องการ และเว้นระยะห่างระหว่างดอกไม้แต่ละดอก
ทับ: วางกระดาษซับน้ำอีกชั้นทับลงไปบนดอกไม้ จากนั้นนำไปวางไว้ในหนังสือเล่มหนาๆ หรือเครื่องทับดอกไม้ แล้ววางของหนักๆ ทับลงไปอีกที
รอ: ทิ้งไว้ประมาณ 2-4 สัปดาห์ โดยอาจเปลี่ยนกระดาษซับน้ำใหม่ทุกๆ 2-3 วันในช่วงแรก เพื่อช่วยดูดความชื้น
ผลลัพธ์: ดอกไม้จะแบนราบ คงสีสันได้ดีกว่าการตากลม แต่จะไม่มีมิติ
4. การอบด้วยไมโครเวฟ (Microwave Drying)
เป็นวิธีที่รวดเร็วที่สุด เหมาะสำหรับคนใจร้อน
เหมาะสำหรับ: ดอกไม้ขนาดเล็ก-กลาง ดอกไม้บางประเภทที่ทนความร้อนได้ดี (เช่น กุหลาบ)
อุปกรณ์:
ดอกไม้สด
ภาชนะที่เข้าไมโครเวฟได้
กระดาษทิชชู หรือกระดาษซับน้ำ
(อาจใช้ซิลิกาเจลร่วมด้วยเพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น)
ขั้นตอน (แบบใช้กระดาษ):
เตรียมดอกไม้: ตัดก้านให้สั้น เด็ดใบออก
วาง: วางดอกไม้ระหว่างกระดาษทิชชูหรือกระดาษซับน้ำ 2-3 แผ่น
เข้าไมโครเวฟ: วางดอกไม้ที่ประกบกระดาษแล้วบนจานที่เข้าไมโครเวฟได้
อบ: อบด้วยไฟอ่อน-กลาง (ประมาณ 600-800 วัตต์) ครั้งละประมาณ 30-60 วินาที แล้วนำออกมาตรวจสอบ พลิกด้าน และทำซ้ำจนกว่าดอกไม้จะแห้งสนิท (อาจใช้เวลาหลายครั้ง)
พัก: เมื่อแห้งแล้ว ปล่อยให้ดอกไม้เย็นสนิทก่อนนำไปใช้งาน
ผลลัพธ์: รวดเร็ว แต่สีอาจเปลี่ยนไปบ้าง และต้องระมัดระวังไม่ให้ไหม้
5. การอบด้วยเตาอบ (Oven Drying)
อีกทางเลือกหนึ่งสำหรับการอบแห้งจำนวนมาก
เหมาะสำหรับ: ดอกไม้ที่มีกลีบหนาพอสมควร ดอกไม้ที่ต้องการอบปริมาณมาก
อุปกรณ์:
ดอกไม้สด
ถาดอบ
กระดาษรองอบ
ขั้นตอน:
เตรียมดอกไม้: ตัดก้านให้สั้น เด็ดใบออก
วาง: วางดอกไม้บนถาดอบที่รองด้วยกระดาษรองอบ โดยเว้นระยะห่าง
อบ: นำเข้าเตาอบที่ตั้งอุณหภูมิต่ำที่สุด (ประมาณ 38-60 องศาเซลเซียส) และอาจแง้มฝาเตาอบไว้เล็กน้อยเพื่อให้ความชื้นระบายออกไป
รอ: อบเป็นเวลาหลายชั่วโมง (2-6 ชั่วโมง หรือมากกว่า) ขึ้นอยู่กับชนิดและขนาดของดอกไม้ คอยตรวจสอบเป็นระยะ
ผลลัพธ์: สามารถทำได้ปริมาณมาก แต่ใช้เวลานานและต้องควบคุมอุณหภูมิให้ดี
เคล็ดลับสำคัญเพิ่มเติมเพื่อความสำเร็จ:
เลือกดอกไม้สดใหม่: ควรใช้ดอกไม้ที่เพิ่งตัดมาใหม่ๆ หรือที่ยังสดอยู่ ไม่เหี่ยวเฉา
หลีกเลี่ยงแสงแดด: แสงแดดจะทำให้สีของดอกไม้ซีดจางลงอย่างรวดเร็ว ควรตากหรืออบในที่ร่ม
ความอดทน: การทำดอกไม้แห้งต้องใช้เวลาและความอดทน (ยกเว้นไมโครเวฟ) แต่ผลลัพธ์ที่ได้จะคุ้มค่าแน่นอน
ใช้สเปรย์เคลือบ: เมื่อดอกไม้แห้งสนิทแล้ว สามารถพ่นสเปรย์เคลือบดอกไม้แห้ง (Floral Sealer Spray) หรือสเปรย์ฉีดผม (Hair Spray) บางๆ เพื่อช่วยรักษาสีและป้องกันไม่ให้กลีบร่วงง่าย
ขอให้สนุกกับการทำดอกไม้แห้งนะครับ!