ยาชูกำลัง: ปลุกสมองสดชื่น ปลุกร่างกายกระปรี้กระเปร่า

[siritidaphon]

ยาชูกำลัง: ปลุกสมองสดชื่น ปลุกร่างกายกระปรี้กระเปร่า   

‘หัวตื้อ ไม่สดชื่น ไม่กระปรี้กระเปร่า’ ปัญหาเหล่านี้ไม่ใช่ปัญหาเล็กๆ สำหรับคนที่ต้องตื่นเช้าไปทำงาน การที่ต้องไปทำงานด้วยสมองที่ไม่ปลอดโปร่งและร่างกายที่อ่อนเพลียคือฝันร้ายที่สุด เพราะนอกจากจะส่งผลต่อสุขภาพแล้ว ยังส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานด้วย ถึงเวลาหรือยังที่จะมาปลุกสมองและร่างกายให้กระปรี้กระเปร่า


วิธีง่ายๆ ที่ช่วยปลุกสมองและร่างกายให้กระปรี้กระเปร่า

 
ดื่มน้ำหลังตื่นนอนก่อนทำอย่างอื่น

      เริ่มด้วยวิธีที่สุดแสนจะง่ายด้วยการดื่มน้ำทันทีหลังตื่นนอน การดื่มน้ำจะช่วยทดแทนน้ำที่ร่างกายเสียไประหว่างที่คุณนอน  น้ำเป็นส่วนประกอบสำคัญของร่างกายและสมองที่จะช่วยให้ร่างกายตื่นตัว สมองปลอดโปร่งและสดชื่น โดยเราควรเลือกเครื่องดื่มที่มีคุณค่าต่อร่างกาย เช่น

       น้ำเปล่า : น้ำที่ไม่มีรสชาติแต่เปี่ยมไปด้วยคุณค่าต่อสมองและร่างกายเป็นอย่างมาก นอกจากจะทำให้สมองปลอดโปร่งและร่างกายตื่นตัวแล้ว ยังช่วยดีท็อกซ์ลำไส้และช่วยลดการอักเสบต่างๆ ของร่างกายด้วย

       น้ำผึ้งผสมมะนาว : ใครที่ชอบเครื่องดื่มรสชาติเปรี้ยวนิดหวานหน่อยพร้อมสรรพคุณที่ดีต่อร่างกาย ‘น้ำผึ้งมะนาว’ อาจตอบโจทย์ มีประโยชน์ช่วยให้เป็นพลังงานแก่เซลล์ คุณจึงรู้สึกสดชื่น แล้วเสริมด้วยความหวานนิดๆ ของน้ำผึ้งที่ช่วยให้ชุ่มคอและลดอาการอ่อนเพลีย

       น้ำโสม : หากใครชอบเครื่องดื่มแนวสมุนไพร ดื่มร้อนๆ ตอนเช้าให้ความสดชื่น ตื่นตัว โสมเป็นตัวเลือกที่ดีที่คุณได้ลองแล้วจะต้องติดใจ เนื่องจากสรรพคุณที่ช่วยเสริมวิตามินและเกลือแร่ให้ร่างกายนำไปใช้เป็นพลังงานนี่เอง จึงทำให้กระปรี้กระเปร่าในวันทำงาน แต่หากใครไม่ชอบดื่มน้ำโสม ในปัจจุบันก็มีสารสกัดจากโสม ให้เลือกทานได้เช่นกัน

      น้ำเต้าหู้ผสมมะนาว : เครื่องดื่มนี้อาจจะทำให้ใครหลายคนประหลาดใจไปสักหน่อย เพราะอาจไม่คุ้นเคยกับรสชาติ แต่คุณจะได้ประโยชน์จากถั่วเหลืองที่ให้โปรตีนและมะนาวที่ให้พลังงานแก่เซลล์ในร่างกาย นอกจากนี้การดื่มเครื่องดื่มชนิดนี้จะช่วยในการไหลเวียนโลหิตให้เป็นปกติ ส่งผลให้อวัยวะต่างๆ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ร่างกายและสมองจึงสดชื่น ไม่มึนงง


  ออกกำลังกายตอนเช้า

     การออกกำลังกายในตอนเช้าฟังดูเหนื่อย แต่เปี่ยมไปด้วยประโยชน์ เพราะช่วยให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า  และช่วยเพิ่มสมาธิในการทำงาน เนื่องจากการออกกำลังกายจะช่วยกระตุ้นให้ระบบต่างๆ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะช่วยกระตุ้นการทำงานของหัวใจ ให้อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้น เพิ่มการสูบสูบฉีดของเลือด อีกทั้งร่างกายยังหลั่งสารเอ็นดอร์ฟินซึ่งเป็นสารที่ทำให้ร่างกายสดชื่นอีกด้วย

      ทั้งนี้การออกกำลังกายในตอนเช้าควรพักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารรองท้องเล็กน้อยเพื่อให้มีพลังงานเพียงพอและป้องกันภาวะขาดน้ำของร่างกาย รวมไปถึงควรอบอุ่นร่างกายเพื่อป้องกันอาการบาดเจ็บขณะออกกำลังกายด้วย

 
อย่าลืมทานอาหารเช้า
      เคยสงสัยไหมว่า ‘ทำไมการทานอาหารเช้าจึงสำคัญกว่ามื้ออื่นๆ’ คำตอบของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่คงตอบไปทำนองเดียวกันว่า การเริ่มวันใหม่ด้วยอาหารเช้าที่มีประโยชน์ครบทุกหมู่ จะช่วยให้ร่างกายได้รับพลังงานจากอาหารไปเลี้ยงสมองและส่วนต่างๆ ของร่างกาย ด้วยเหตุนี้สมองและร่างกายจึงพร้อมที่จะทำกิจกรรมต่างๆ อย่างเต็มที่ตลอดทั้งวัน ยิ่งไปกว่านั้นการทานมื้อนี้จะช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้สมดุล ลดเสี่ยงโรคร้ายต่างๆ อย่างโรคเบาหวาน ความดันโลหิต และหลอดเลือดสมองได้

       โดยอาหารเช้าที่ดีควรมีสารอาหารที่ครบ 5 หมู่ ที่ช่วยให้พลังงานร่างกายและสมองพร้อมทำงานอย่างเต็มที่ ดังตัวอย่างต่อไปนี้

        ต้มเลือดหมู :  ถือเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหารที่ได้จากเครื่องในสัตว์ เนื้อสัตว์ โดยเฉพาะผักใบเขียวที่ใส่ลงไปมีวิตามินมากมาย รวมไปถึงวิตามมินบีที่ช่วยบำรุงสมองด้วย ยิ่งไปกว่านั้นหากทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ ที่เป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตจะยิ่งช่วยให้พลังงานแก่ร่างกายให้ตื่นตัวมากขึ้น แต่ผู้ที่เป็นโรคเก๊าท์ไม่ควรทานต้มเลือดหมูเยอะเพราะมีกรดยูริค (Uric Acid) ซึ่งอาจทำให้อาการป่วยแย่ลงได้
        ขนมปังไข่ดาว :  เหมาะกับชีวิตที่เร่งรีบของคนวัยทำงานเป็นอย่างมาก เพราะทานง่ายและอุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็น อย่างขนมปังที่ทำมาแป้งสามารถให้พลังงานได้ และการทานโปรตีนจากไข่จะช่วยเพิ่มพลังงานคูณสอง อีกทั้งในไข่ยังมีวิตามินบี 1 บี 5  บี 6และ บี 12 ซึ่งมีผลต่อระบบประสาท ช่วยเติมพลังสมองให้พร้อมลุยงานได้อย่างเต็มที่ตลอดทั้งวัน
         โจ๊กหมู :  ในโจ๊กหมูมีข้าว  เนื้อสัตว์ที่ช่วยให้พลังงาน อีกทั้งยังมีต้นหอมและขิงที่ช่วยมาตัดเลี่ยนและให้คุณค่าทางอาหารได้อย่างครบถ้วนมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากทานโจ๊กที่ทำจากข้าวกล้องที่เป็นข้าวไม่ขัดสีจะได้รับสารอาหารที่ชื่อว่า กาบา (Gaba) รวมไปถึงวิตามินบีที่ช่วยให้สมองสดชื่น ตื่นตัวขึ้นนั่นเอง

 
อาบน้ำเย็น
      ลองอาบน้ำเย็นแทนการอาบน้ำอุ่นในตอนเช้า คุณจะรู้สึกว่าร่างกายสดชื่น ปลุกคุณจากความง่วงเหงาหาวนอนได้ดีกว่าการอาบน้ำอุ่นที่ช่วยให้คุณผ่อนคลายความเครียดที่เจอมาทั้งวัน การอาบน้ำเย็นจะช่วยให้ประสาทส่วนต่างๆ ในร่างกายให้ทำงานได้ดีขึ้น กระตุ้นการสูบฉีดของเลือดให้ไหลเวียนไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย จึงทำให้คุณต้องการออกซิเจนเพิ่มขึ้น การหายใจจึงมากและลึกขึ้น อัตราการเต้นของหัวใจจึงเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

 
รับแสงแดดยามเช้า
      รู้หรือไม่ว่าข้อดีของแสงแดดในช่วงเวลานี้สามารถลดการผลิตสารเมลาโทนินที่ร่างกายผลิตในตอนกลางคืนเพื่อให้รู้สึกง่วง เมื่อได้แสงอ่อนๆ ในยามเช้าจึงทำให้สมองและร่างกายตื่นตัว สลัดความง่วงพร้อมรับความสดชื่นตลอดวัน