สำหรับคนที่ต้องใช้ชีวิตย่านใจกลางเมืองที่การจราจรแน่นขนัด ผสมกับอากาศร้อน ๆ ในตอนบ่าย ทำให้บางครั้งคงนึกอยากหลบเข้ามาในบ้านที่เต็มไปด้วยบรรยากาศธรรมชาติ มีลมพาดผ่านสบาย ๆ เต็มไปด้วยมุมนั่งคลายร้อน ยิ่งมีสระว่ายน้ำก็จะเพิ่มความชุ่มฉ่ำให้ลืมทั้งความวุ่นวายและความร้อนไปในทันที เราจึงไม่สงสัยเลยว่ามีเจ้าของบ้าน (ที่มีงบประมาณ) ไม่น้อยที่เลือกไปสร้างบ้านพักตากอากาศต่างจังหวัดที่อยู่กลางป่าเขา บ้านหลังนี้ในบราซิลก็เช่นเดียวกัน เป็นโครงการพูลวิลล่าที่สร้างความน่าสนใจด้วยการใส่ฟาซาดไม้ปิดทึบอาคารดูเป็นส่วนตัว แต่ถ้าเข้ามาใกล้ ๆ จะเห็นความโปร่ง เบา และชีวิตชีวาที่กระจายอยู่เต็มพื้นที่
บ้านฟาซาดบานไม้ระแนง
อาคารสองชั้นหลังที่เห็นโดดเด่นขึ้นมาท่ามกลางสีเขียวของทิวไม้นี้ มีพื้นที่ใช้สอย 445 ตารางเมตร มีส่วนหนึ่งของพื้นที่ใกล้กับจุดคุ้มครองสิ่งแวดล้อมบนที่ดินที่มีลำธาร และตัวบ้านตั้งอยู่ในเขตระดับความสูงมากสุดของพื้นที่ การออกแบบโครงสร้างนี้จึงต้องคำนึงถึงความเข้ากันได้ของบริบท ทีมงานจึงเลือกวัสดุคอนกรีตสีเทาเรียบ ๆ ฟาซาดระแนงไม้ และแผ่นหินที่หาได้จากท้องถิ่นมาเพื่อนำเสนอภาพที่สวยงามอย่างกลมกลืน
ด้วยภูมิทัศน์ที่สวยงามทำให้สถาปนิกเลือกรูปแบบการวางผังบ้าน ตัวบ้านสอดคล้องไปกับด้านยาวของพื้นที่ ให้เส้นกรอบสี่เหลี่ยมผืนผ้าของอาคารนำสายตาของด้านยาวของที่ดิน โดยเปิดพื้นที่บ้านกว้างในหลายจุด สามารถใช้ประโยชน์จากธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นแสงสว่าง สายลม จุดรับสายตาที่กว้างขวาง และสร้างการเชื่อมต่อระหว่างภายในภายนอกอย่างแนบสนิท เพื่อให้รองรับทุกกิจกรรมที่สมาชิกในบ้านชื่นชอบ
วัสดุภายนอกที่เป็นไม้อย่างตรงฟาซาดให้ความรู้สึกอบอุ่น ลดทอนความแข็งกระด้างของคอนกรีต และสร้างความรู้สึกผสานกับธรรมชาติ ซึ่ง “ไม้” ยังถูกใช้ซ้ำในอีกหลายจุดของบ้าน อาทิ บนดาดฟ้า บนเพดานเฉลียง พื้นห้องส่วนตัว และการเลือกเฟอร์นิเจอร์ ช่วยเพิ่มความรู้สึกผ่อนคลายของห้องและมอบบ้านที่แสนสบาย คอนกรีตเปลือยที่มีรูปแบบการหล่อในที่ถูกนำมาใช้กับแผ่นเพดานและพื้นของบ้านตอกย้ำแนวคิดของสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ที่เน้นการสื่อสารตัวตนผ่านวัสดุที่ไม่ต้องปรุงแต่งอะไรมาก
ในวันที่อากาศสดชื่นก็ชักชวนกันเปิดประตูบ้านกว้างๆ ออกไปนั่งอาบแสงแดดอ่อนๆ ยามเช้าพร้อมเครื่องดื่มถ้วยโปรด ฟังเสียงนกและใบไม้ที่ไหวตามแรงลม ช่วงบ่ายที่อากาศร้อนขึ้นก็เปลี่ยนชุดว่ายน้ำแหวกว่ายเล่นในสระน้ำที่สร้างยื่นออกไปในภูมิทัศน์ ทำให้รู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับธรรมชาติ
ในส่วนของพื้นที่ใช้สอยนั้น สถาปนิกต้องการให้เกิดพื้นที่ขนาดใหญ่สำหรับทำกิจกรรมร่วมกัน และสร้างความสัมพันธ์ภายในครอบครัว จึงเริ่มตั้งแต่พื้นที่สนามหญ้า เฉลียง สระว่ายน้ำ ที่เชื่อมต่อห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร และครัว ให้มีความต่อเนื่องกันและมองเห็นกันได้ทั้งหมด นประตูบานเลื่อนกระจกกรอบไม้ที่เปิดได้กว้างจนรู้สึกเหมือนบ้านไม่มีผนัง โดยจะมีด้านหนึ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกเพื่อรับทิวทัศน์ยามพระอาทิตย์ขึ้น
สถาปนิกกำหนดลักษณะการตกแต่งภายในที่ไม่เหมือนใคร ด้วยความแตกต่างในด้านวัสดุและฟังก์ชันการทำงานต่อชั้น โดยในชั้นแรกซึ่งมีพื้นที่ทางสังคมใช้งานร่วมกัน และเป็นส่วนบริการของอาคารตกแต่งผนังด้วย “pedra moledo” ซึ่งเป็นหินแกรนิตของบราซิล ที่ได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนของธรรมชาติในท้องถิ่น แต่ในชั้นบนจะมีบางส่วนที่ต้องการการป้องกันจากแสงแดดและความเป็นส่วนตัว จึงมีสิ่งที่เรียกว่า brise-soleil หรือระบบบังแดดล้อมกรอบด้วยคอนกรีตเปลือยอยู่ข้างบน
บนชั้นสอง เป็นพื้นที่ใช้งานส่วนตัวอย่างห้องอาบน้ำและห้องนอน โดยห้องนอนส่วนใหญ่หันหน้าไปทางภูมิทัศน์ และได้รับการป้องกันแสงแดดด้วยแผงไม้ระแนงบังแดดแบบเคลื่อนที่ได้ เป็นทางเลือกเมื่อต้องการหลีกเลี่ยงความร้อนและแสงสว่าง ในช่วงเวลาที่อยากเปิดออกรับแสง รับลม ชมวิวก็ทำได้ง่ายๆ ผลที่ตามมาเป็นความสบายภายในที่สอดคล้องกับความต้องการพร้อมกับปกป้องพื้นที่ใช้งาน
แผงบังแสงอาทิตย์ หรือ Brise Soleil นั้นเป็นองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมของอาคาร ที่ทำหน้าที่เบี่ยงเบนแสงอาทิตย์ หรือเป็นฉากกั้นช่วยลดการถ่ายเทความร้อนเข้าสู่อาคาร และป้องกันบังแดดได้ดี อาจจะประกอบขึ้นจากวัสดุอย่างง่าย ๆ เช่น ครีบประดับผนัง ระแนงไม้ ไปจนถึงแผงคอนกรีตถาวร ซึ่งจะไม่ใช้วัสดุทึบ เพราะบ้านยังคงต้องการแสงแดดอยู่ และควรติดตั้งให้สอดคล้องกับทิศทางแสงและการโคจรของดวงอาทิตย์ เช่น อาคารที่หันไปทางทิศตะวันตก เป็นต้น
ออกแบบบ้านสองชั้น: บ้านกล่องหุ้มระแนงไม้ เปิดปิดได้ตามจังหวะแสง อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://luxuryhomesdesigns.com/